A Thai girl who live in Galicia, It´s more than 6000 KM. far away from her homeland.
Ad naffnang
Wednesday, 26 February 2014
Saturday, 8 February 2014
Denim Shirt never out!!!
Denim Shirt never out!!!
Denim Shirt never out!!!
สาวๆๆ หลายๆ ท่านคงมีเสื้อเชิ้ตเดนิม หรือ เสื้อเชิ้ตยีนส์ ติดตู้กันอยู๋ใช่ไหมค่ะ Denim Shirt เป็นอีก Item หนึ่งที่เป็นแฟชั่นไม่มีวัน Out แบรนด์ต่าง ๆๆ ต้องมี Denim Shirt มาทุก Season COllection เพราะแฟชั่น Denim Shirt ใส่ได้ตลอด แต่ต่างกันที่การ Mix and Match เท่านั้นเอง มาดูกันคะว่า
Denim Shirt ใส่แบบไหนถึงเก๋บางค่ะ
Denim Shirt สีเทาตัวเท่ห์ จับคู่มากับประโปรงบาน ก็เก๋ไปอีกแบบ สามารถใส่ไปทำงานได้ค่ะ เรียบร้อยแต่แอบเท่ห์ไม่ยอกเลยค่ะ
Denim Shirt สี Rose - Gray สีแปลกตาไปอีกแบบ Match กับ Jean สีดำ ก็ดูดี เก๋ๆๆ แบบสาวปรี้ยว นำเทรนด์คะ
Denim Shirt สีฟ้าตัวสั้น มาคู่กับเอี้ยมขาบาน เปรี้ยว ๆๆ แอบ Sexy ได้โดยไม่ต้องเปิดมากเลยค่ะสาวๆๆ
Denim Shirt สีฟอกซีด ใส่กับ Legging ลายกราฟฟิค ก็เปรี้ยว สบายๆๆ ในวันพักผ่อน แต่แอบเก๋ อินแฟชั่นค่ะ
Denim Shirt สียีนส์ฟอกสุด CLassic ใส่คู่กับ สกินนี่สีดำ เก๋ เท่ห์ ทะมัดทะแมง หา พรอพ เพิ่มอย่างหมวก หรือผ้าพันคอเก๋ๆๆ ก็ ออกไปชิลล์ข้างนอกได้สบายๆๆ เลยค่ะ
** หวังว่าจะเป็นไอเดีย ในการ Mix and match Denim Shirt ให้สาวๆๆ ที่ไม่อยากใส่เสื้อเชิ้ตธรรมดาๆๆ นะค่ะ ขอบคุณที่รับชมค่ะ **
สุดท้ายนี้ ฝากติดตามเพจ ด้วยนะคะ มีภาพแฟชั่นสวยๆๆ จากสเปนมาฝากค่ะ
Click Like ที่นี่ Atucorazonchill Page
ขอบคุณค่ะ
Tuesday, 28 January 2014
" Rush" หนังเรื่องนี้ คุณต้องดู
" Rush" หนังเรื่องนี้ คุณต้องดู
สวัสดีค่ะเพื่อนๆๆ วันนี้อยากแนะนำดีๆๆสักเรื่องในความคิดของเราคะ
" Rush"
เผอิญได้ดูหนังเรื่องนี้โดยไม่รู้มาก่อนว่าหนังมีความเป็นมาอย่างไร ใครเป็นคนแสดงนำ
แต่เมือได้ดูแล้วกลับชอบมากๆๆ เลยค่ะ รู้สีกว่าหนังมันกลมกล่อมมีทุกรส
" Rush" สร้างจากเรื่องจริงชีวิตจริงของ Niki Lauda และ James Hunt ทั้งสองเป็นแชมป์โลกฟอร์มูล่าวัน Formula 1 เรื่องราวเกิดขึันในการแข่งขัน ปี 1976
ตัวหนังไม่ได้นำเสนอการแข่งขัน Formula 1 แต่หนังพูดถึง นักแข่ง 2 คน ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
Niki Lauda The perfectionist รักครอบครัวและคำนวณทุกอย่าง ความเสียงและฝึกฝนเพื่อที่จะเป็นแชมป์โลกหลายสมัย
และ James Hunt The Playboy.ผู้ใช้ชีวิตเหมือนเป็นวันสุดท้ายของการมีชีวิตอยู่ ยอมเสี่ยงทำทุกอย่างเพื่อจะได้เป็นแชมป์โลกสักครั้งในชีวิต
แต่สิ่งที่เหมือนกันคือทั้งสองหลงไหลและมุ่งมันที่จะเป็นนักแข่ง แชมป์เปี้ยน ฟอร์มูล่าวัน ระดับโลก
หนัง สื่อและเล่าเรื่องได้เป็นอย่างดีไม่อีดอาด ภาพสวยและใส่ใจในรายละเอียด คาแรคเตอร์ของนักแสดง ทั้งคนรอบข้าง เพราะหนังสร้างจากเรื่องจริง เหตุการณ์เกิดจริง
ฟอร์มูล่าวัน ก็เป็นเกมส์กีฬาชนิดหนึ่ง ถ้าคุณพลาด คุณตาย แต่ทุกๆๆ คนก็ยอมเสี่ยง และ น้ำใจนักกีฬาช่างสวยงามยิ่งนัก
สิ่ง ที่เราประทับใจในหนังเรื่องนี้คือ แรงบันดาลใจในการทำสิ่งที่รัก หลงไหล มุ่งมั่น ความเชื่อในสิ่งที่รักและเชื่อในตัวเอง เป็นหนังที่ให้แรงบันดาลใจเป็นอย่างดีค่ะ ที่สำคัญ กำลังใจของครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญที่ควรหวงแหนค่ะ
แนะนำให้ชมค่ะ ไม่ผิดหวังแน่นอน
" Rush"
เผอิญได้ดูหนังเรื่องนี้โดยไม่รู้มาก่อนว่าหนังมีความเป็นมาอย่างไร ใครเป็นคนแสดงนำ
แต่เมือได้ดูแล้วกลับชอบมากๆๆ เลยค่ะ รู้สีกว่าหนังมันกลมกล่อมมีทุกรส
" Rush" สร้างจากเรื่องจริงชีวิตจริงของ Niki Lauda และ James Hunt ทั้งสองเป็นแชมป์โลกฟอร์มูล่าวัน Formula 1 เรื่องราวเกิดขึันในการแข่งขัน ปี 1976
ตัวหนังไม่ได้นำเสนอการแข่งขัน Formula 1 แต่หนังพูดถึง นักแข่ง 2 คน ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
Niki Lauda The perfectionist รักครอบครัวและคำนวณทุกอย่าง ความเสียงและฝึกฝนเพื่อที่จะเป็นแชมป์โลกหลายสมัย
และ James Hunt The Playboy.ผู้ใช้ชีวิตเหมือนเป็นวันสุดท้ายของการมีชีวิตอยู่ ยอมเสี่ยงทำทุกอย่างเพื่อจะได้เป็นแชมป์โลกสักครั้งในชีวิต
แต่สิ่งที่เหมือนกันคือทั้งสองหลงไหลและมุ่งมันที่จะเป็นนักแข่ง แชมป์เปี้ยน ฟอร์มูล่าวัน ระดับโลก
หนัง สื่อและเล่าเรื่องได้เป็นอย่างดีไม่อีดอาด ภาพสวยและใส่ใจในรายละเอียด คาแรคเตอร์ของนักแสดง ทั้งคนรอบข้าง เพราะหนังสร้างจากเรื่องจริง เหตุการณ์เกิดจริง
ฟอร์มูล่าวัน ก็เป็นเกมส์กีฬาชนิดหนึ่ง ถ้าคุณพลาด คุณตาย แต่ทุกๆๆ คนก็ยอมเสี่ยง และ น้ำใจนักกีฬาช่างสวยงามยิ่งนัก
สิ่ง ที่เราประทับใจในหนังเรื่องนี้คือ แรงบันดาลใจในการทำสิ่งที่รัก หลงไหล มุ่งมั่น ความเชื่อในสิ่งที่รักและเชื่อในตัวเอง เป็นหนังที่ให้แรงบันดาลใจเป็นอย่างดีค่ะ ที่สำคัญ กำลังใจของครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญที่ควรหวงแหนค่ะ
แนะนำให้ชมค่ะ ไม่ผิดหวังแน่นอน
Sunday, 26 January 2014
Thursday, 23 January 2014
ส้มตำ อาหารไทย ตำได้ทุกทีทั่วโลก
ครก + สาก และ ครั้งแรกกับการตำส้มตำ
สวัสดีค่ะเพื่อนๆๆ วันนี้อยากมาเล่าเรื่องราวของการทำ ส้มตำครั้งแรกของเรา ตั้งแต่ย้ายมาอยู่สเปนค่ะ เมื่อ ต้นเดือน ธันวาคม 2556 เราได้รับมรดกตกทอด จากพี่คนไทยใจดีที่เรารู้จักที่นี่ ส่งมอบครกไม้กับสาก และ มะละกอดิบลูกกำลังงาม ๆๆ ๆพร้อมกับ พริกแห้ง และ ปลาร้า 1 กระปุก
เรา ดีใจมากๆๆๆ ขอบคุณพี่แกไปหลายที และซาบซี้งกับน้ำใจเพื่อนไทยในต่างแดนเป็นอย่างยิ่ง ปกติแล้ว เราเป็นคนที่ไม่ชอบทำอาหาร และไม่เคยเรียนทำอาหารที่ไหนมาก่อนเลย เป็นคนที่พอทำได้ ไม่ถือว่าทำเป็น แต่มาอยู่ต่างแดน อยากทานอาหารไทยต้องทำกินเอง เมือเครื่องปรุงและอุปกรณ์ที่ได้รับมา มันบ่งชัดๆๆ ว่า ส้มตำ เท่านั้น และภาพส้มตำรสจัด รสชาติ จัดจ้าและ สีสันสวยงามที่เมืองไทย ก็ลอยมาตรงหน้า เกือบจะปีแล้วที่ไม่ได้ลิ้มลองรสชาตินี้ เอาวะ ลองดูสักตั้ง ว่าแล้วก็ปอกเปลือกมะละกอ ด้วย ที่ปอกแครอท ง่ายหน่อยค่ะ ปอกแครอท และ ขูดลงไปด้วยเพื่อความสวยงาม ลองสับมะละกอดู จำได้ว่าแม่สอนว่า อยากสับใหญ่และหนา เพราะมันจะไม่เข้าเครื่องปรุง ... เอ่อ อยากจะบอกว่า การสับมะละกอและการเฉาะ ถือว่าเป็นทั้งศิลปะและงานฟิสิกส์ก็ว่า ต้องเส้นสวยงามและน้ำหนักมือถือจังหวะ ยากกกก อะ ..
เอาละงาน ยากผ่านไปแล้ว ถึงเวลาตำกันแล้ว... ว่าแล้ว หยิบ ครกไม้ และสากเตรียมไว้ กำพริกแห้่งลงไปสัก 7-8 เม็ด กะเอาเผ็ดสีสัน สวยงาม ตามด้วยกระเทียม ใส่ไป 2 กลีบ และเกลือป่นเล็กน้อย โคลกๆๆๆๆ ให้หยาบๆๆ หน่อย เติมน้ำปลา น้ำมะขามเปียก มะเขือเทศผ่าชีก 2 ลูก น้ำตาลเล็กน้อย เลม่อน 1 ซีก และ ปลาร้านิดหน่อย ๆๆ โคลกรวมกัน ทำเป็นน้ำปรุง เหมือนจะมีอาชีพนะแต่จริงๆๆ ต้องยืนคิดอยู่ลืมอะไรไปไหมว่าาาา
เมื่อ คิดว่าทุกอย่างครบแล้วใส่เส้นมะละกอและแครอทลงไป โคลกๆๆ คลุก ๆๆ ให้เข้าเนื้อ ชิมรสดู รสชาดใช้ได้ไม่เหมือนที่เมืองไทย แต๋ก็ไม่ได้แย่จนกินไม่ได้ ผลงานชิ้นนี้ภูมิใจมากค่ะ
ทานด้วยกันไหมค่ะ
ปล. การทำส้มตำให้อร่อย ปลาร้าคือตัวแปรหลักเลยที่เดียวค่ะ
ขอบคุณที่รับชมค่ะ
Labels:
Somtum,
Spicysalad,
Thai food
Location:
Orense, Ourense, España
ชามะละกอ ล้างระบบดูดซึม และไขมันในลำไส้ (กินอาหารเป็นยา)
ชามะละกอ ล้างระบบดูดซึม และไขมันในลำไส้ (กินอาหารเป็นยา)
ตั้งแต่
เริ่มออกกำลังกาย และ อยากกำจัดไขมันส่วนเกินไปให้พ้นๆๆ จากตัวแล้ว
เราก็เริ่มสนใจสุขภาพและ อาหารการกินมากขึ้น ลองค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เนต
เจอ สูตรการทำชามะละกอล้างระบบดูดซึม
เห็นว่าทำง่ายได้ผลจริงเลยเอามาแชร์คะ** ขอบคุณแฟนเฟจ ทำอาหารกินเองค่ะ ** ขออนุญาติเอามาแปะตรงนี้นะคะ จะได้หาง่ายๆๆ เวลาจะทำ อิอิ ตั้งใจจะพยายามทานให้ได้เป็นประจำและทำให้คนในครอบครัวลองด้วยคะ**
ชามะละกอ ล้างระบบดูดซึม และไขมันในลำไส้ (กินอาหารเป็นยา)
หลังจากที่กินอาหารผัดน้ำมัน และอาหารทอด อาหารมัน ๆ มาพอสมควร คิดว่าถึงคิวที่จะต้องล้างไขมันในลำไส้ซะแล้ว จัดชามะละกอ ซะหน่อย เพื่อล้างระบบดูดซึมให้สะอาด ร่างกายจะได้แข็งแรง และจะได้ไม่ป่วย โดยไม่รู้สาเหต มาเรียนรู้วิธีการล้างไขมันในลำใส้ และระบบดูดซึม ด้วยสูตรชามะละกอ ของ ท่านอาจารย์ สุทธิวัสส์ คำภา กันดีกว่าค่ะ ถ้าจะล้างระบบดูดซึมและไขมันให้สะอาด ควรกินต่อเนื่องอย่างน้อย 7 วัน ถ้าจะให้ได้ผลดีมาก ๆ ควรกินต่อเนื่อง 1 เดือน ใช้ดื่มต่างน้ำทั้งวัน วันละ 1 – 2 ลิตร
ส่วนผสม
1. มะละกอสด 1 ลูก ปลอกเปลือก
2.น้ำเปล่า 4 ลิตร
/ 3. ใบเตย 10 ใบ /
4. ใบชาจีนแห้ง หรือ ชาใบหม่อน
วิธีทำ โดยนำมะละกอมาปลอกเปลือก ผ่าครึ่งเอาเมล็ดออก หั่นเป็นชิ้นใหญ่เหมือนต้มฟ
อาหารผัดน้ำมันในน้ำมันที่ประกอบอาหาร ถ้ามีส่วนประกอบของน้ำมันปา
ระบบดูดซึมเสีย เมื่อระบบดูดซึมเสีย ลำไส้จะดูดซึมสารอาหารที่เป
ทุกคนที่เคยกินอาหารผัดน้ำม
การไม่ล้างลำไส้ ก็เปรียบเสมือนการกินข้าว แล้วไม่ล้างจาน มื้อต่อไปก็ใช้จานใบเก่า ใส่ข้าวกินใหม่
สูตรล้างไขมันในลำไส้เล็ก
บท ความนี้จากหนังสือ แก้เจ็บ แก้จน ของ อาจารย์สุทธิวัสส์ คำภา กล่าวไว้ว่า "เวลาบ่ายโมง ถึง บ่ายสาม คือช่วงเวลาของลำไส้เล็ก" ที่พลังชี่ หรือพลังชีวิตจะไหลเวียนเข้
*
* หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพือนๆๆ นะคะ ** ขอบคุณข้อมูลดีๆๆ
Thursday, 9 January 2014
อยากรวย ทำอย่างไร
อยากรวย ทำอย่างไร
อยากรวย ทำอย่างไร |
“อยากรวย ทำอย่างไร” เชื่อ
ว่าหลายคนคงเคยมีคำถามนี้อยู่ในใจ
แต่อาจมีเพียงไม่กี่คนที่มีการคิดตั้งเป้าหมาย
และวางแผนการสร้างความร่ำรวยอย่างจริงจัง
การสร้างความร่ำรวยนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด ปัจจุบัน
มีเครื่องมือทางการเงินต่างๆ ทั้งตราสารทางการเงิน และกองทุนหลายชนิด
ที่ช่วยให้เราสามารถลงทุนสร้างฐานะและความร่ำรวยขึ้นมาได้
บทความนี้จะมีสี่ขั้นตอนที่ใครๆ ก็สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างง่ายๆ
เพื่อความมั่งคั่ง และร่ำรวยอย่างยั่งยืนในอนาคต
ขั้นตอนแรก ระบุจำนวนเงินเป้าหมาย
เมื่อเราคิดอยากจะรวยนั้น ก่อนอื่นต้องกำหนดเป้าหมายออกมาเสียก่อนว่า “รวย” ของ
เราเนี่ย จะต้องมีเงินซักกี่ล้านบาท โดยมีแนวคิดง่ายๆ ว่า
เมื่อเรารวยมีเงินก้อนใหญ่แล้ว
จะเก็บดอกกินผลจากเงินก้อนนั้นประมาณเดือนละเท่าไหร่
และจะใช้เวลากี่ปีที่จะสะสมจนมีเงินจำนวนนั้น ตัวอย่างเช่น
ถ้าเราคิดว่าอยู่เฉยๆ แล้วมีเงินใช้เดือนละ 5 หมื่น
บาท ก็ถือว่ารวยแล้ว เราสามารถคำนวณกลับไปได้ว่าจะต้องมีเงินต้นเท่าไหร่
หากลงทุนในพวกหุ้นกู้เป็นส่วนใหญ่เพื่อคาดหวังรายรับที่แน่นอนที่ 4% ต่อปี ก็จะคำนวณได้จากสูตร
ในกรณีนี้ ให้นำ 50,000 บาทต่อเดือน x 12 เดือน แล้วนำมาหาร 4% หรือ 0.04 จะได้เงินต้น หรือจำนวนเงินที่ต้องมีอยู่ที่ 15 ล้านบาท
ขั้นตอนที่สอง กำหนดระยะเวลาสู่เป้าหมาย
เป้า
หมายทางการเงินเพื่อความร่ำรวยนี้
จะต้องมีการกำหนดระยะเวลาที่จะไปถึงเป้าหมายด้วย เช่น
เมื่อมีเป้าหมายต้องการเก็บออมหรือลงทุนให้ได้ 15 ล้านบาทแล้ว ให้กำหนดระยะเวลาที่ต้องการเพื่อไปถึงเป้าหมาย ซึ่งควรมีความเป็นไปได้ เช่น 25 ปีข้างหน้า
ขั้นตอนที่สาม เลือกพาหนะเดินทางที่เหมาะสม
เป้า
หมายเพื่อความร่ำรวยครั้งนี้จะสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมื่อจำนวนเงินที่ต้องการกับ
ระยะเวลาในการเก็บออมนั้นมีความเป็นไปได้
ซึ่งเงินที่เราเก็บออมในแต่ละเดือนนี้ไม่ได้นำไปฝากในธนาคารเฉยๆ
แต่นำไปจัดพอร์ตทยอยลงทุนในตราสารทางการเงินต่างๆ เช่น ตราสารหนี้ หุ้น
และกองทุน เป็นต้น กรณีที่มีระยะเวลาในการออมยาวนาน
หรือเป้าหมายทางการเงินของเราสามารถยืดหยุ่นในด้านของระยะเวลาได้
เราก็สามารถจัดพอร์ตที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อคาดหวังผลตอบแทนในระดับสูงได้
เช่น ต้องการร่ำรวยมีเงิน 15 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 25 ปี โดยจัดพอร์ตที่มีความเสี่ยงสูง มีหุ้นหรือกองทุนหุ้นอยู่ในพอร์ตเป็นส่วนใหญ่ ถ้าคาดหวังผลตอบแทนประมาณ 9% ต่อปี เราต้องออมเงินเดือนละ 13,381 บาท (15 ล้าน / 1,121 จากตาราง) ไปเป็นระยะเวลา 25 ปี ก็สามารถบรรลุเป้าหมาย 15 ล้านบาทได้แล้ว ซึ่งเงินออมรายเดือนนี้จะคำนวณได้จากสูตร
อย่าง
ไรก็ตาม หากมีระยะเวลาการออมเงินที่สั้น หรือรับความเสี่ยงได้ในระดับที่ต่ำ
ก็ควรจัดพอร์ตการลงทุนที่มีการลงทุนในตราสารหนี้เป็นส่วนใหญ่
ซึ่งจะมีความผันผวนที่ต่ำ
แต่ผลตอบแทนที่ได้รับก็ต่ำกว่าพอร์ตที่เน้นลงทุนในหุ้นด้วยเช่นกัน
กรณีที่มีจำนวนปีที่ออมเงินต่ำกว่า 5 ปี ควรนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนประมาณ 4% ต่อปี เมื่อครบกำหนดเวลาก็ได้เงินคืนครบพร้อมผลตอบแทนที่แน่นอน แต่กรณีที่จำนวนปีที่ออมเงินนานกว่า 20 – 30 ปี เช่น แผนเกษียณเพื่อใช้เงินในอีก 30 ปีข้างหน้า ก็สามารถนำเงินไปลงทุนในกองทุนที่มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นเป็นหลัก สามารถให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 9 - 10% ต่อปีได้
ขั้นตอนที่สี่ ปฏิบัติตามแผนที่วางไว้
ใน
ขั้นตอนนี้ วินัยการออมและลงทุนเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด
การที่พอร์ตการลงทุนของเรามีส่วนผสมเป็นหุ้นนั้นจะมีความผันผวนของมูลค่า
เงินลงทุนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อเราสามารถเก็บออมเงินได้เป็นก้อนใหญ่ๆ
แล้วเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นทำให้ตลาดหุ้นซบเซาหรือตกต่ำลงไป
มูลค่าพอร์ตการลงทุนที่ทยอยสะสมมาจนมีขนาดใหญ่นั้นก็อาจทำให้รู้สึกว่าพบกับ
ภาวะขาดทุนหนักๆ เช่น พอร์ตการลงทุนของเรามีหุ้นผสมอยู่ 70% เมื่อเก็บสะสมเงินมาได้ถึง 10 ล้านบาทแล้ว เกิดภาวะวิกฤตขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นร่วงลงไป 30% มูลค่าพอร์ตของเราก็อาจจะร่วงลงไปได้ถึง 21% (30% ของสัดส่วนในหุ้น 70% = 21% ของพอร์ตรวม) หรือเมื่อคิดเป็นตัวเงินจะมีมูลค่าถึง 2.1 ล้าน
บาทสำหรับพอร์ตสิบล้าน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในวันนั้นตลาดหุ้นจะซบเซา
และพอร์ตการลงทุนของเราจะขาดทุนหนักจนเราเสียกำลังใจในการดำเนินตามแผนการลง
ทุนที่วางเอาไว้ แต่ขอให้คิดเอาไว้ว่าแม้อยู่ในภาวะวิกฤต
การนำเงินมาลงทุนอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
และเป็นสิ่งที่ต้องทำเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่ได้วางเอาไว้
แม้ในระยะสั้นตลาดหุ้นมีความผันผวนของราคาที่ขึ้นและลงสูง แต่ในระยะยาว
การลงทุนในหุ้นจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความผันผวน
ของราคาต่ำกว่า
ความ
ต้องการเป็นคนรวยนั้นอาจจะเป็นความฝันของทุกคน
ซึ่งคนที่จะไปถึงความฝันได้นั้น
ต้องมีการตั้งเป้าหมายสำหรับความฝันเป็นตัวเลขจำนวนเงินให้ชัดเจนรวมทั้ง
ระยะเวลาไปสู่เป้าหมาย เปรียบได้กับเมื่อเราจะไปเที่ยว
เราก็ต้องตั้งเป้าหมายว่าเราจะไปเที่ยวที่ใด ต้องไปถึงเมื่อไหร่
จะเดินทางไปอย่างไร และการเดินทางใช้ยานพาหนะอะไรจึงจะเหมาะสม
ซึ่งยานพาหนะที่ใช้เดินทางเปรียบได้กับพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมาย
และความเสี่ยงของตัวเรา แม้ว่าระหว่างทางจะมีอุปสรรค
ก็ต้องไม่ท้อถอยในการปฏิบัติตามแผนออมและลงทุนให้ได้ตลอดเส้นทาง
แม้จะเป็นสิ่งที่ยาก แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของผู้ที่ตั้งใจจริง
วันที่ 6 มีนาคม 2556 โดย วรินทร์ สุรพลชัยฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล ธนาคารกสิกรไทย |
Subscribe to:
Posts (Atom)