หลังจากที่เราได้ตกลงสอนภาษาอังกฤษให้กับเด็กฝรั่งวัย 3 ขวบครึ่ง เราเพิ่งจะเข้าใจว่า เด็กวัยนี้ดูแลยากมาก อารมณ์เปลี่ยนแปลงบ่อย ถึงขั้นก้าวร้าวและ ใช้ความรุนแรง
เราได้หาข้อมูลทางเนต มีบทความที่น่าสนใจ จึงอยากนำมาแบ่งปันให้เพื่อนๆๆคะ
ลูกก้าวร้าว (Aggressive Behavior)
ผู้เขียน: โสธิดา ผุฏฐธรรม ครุศาสตร์มหาบัณฑิต (จิตวิทยาการศึกษา) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และตรวจสอบโดยบรรณาธิการบทความด้าน
บทนำ
พฤติกรรม
ความก้าวร้าว (Aggressive Behavior) หมายถึง
ลักษณะพฤติกรรมที่ทำร้ายหรือมุ่งทำร้ายผู้อื่น ซึ่งหมายรวมถึงพฤติกรรมต่างๆ
ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ความก้าวร้าวทางวาจา การกลั่นแกล้ง การต่อสู้
ทำร้ายร่างกาย ปล้น ข่มขืน และฆาตกรรม เป็นต้น
ซึ่งความก้าวร้าวนั้นสามารถปรากฏได้ในหลายรูปแบบ
และมักจะมีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กัน
พฤติกรรมก้าวร้าวแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
- พฤติกรรมก้าวร้าวเยี่ยงศัตรู (hostile aggression) หมายถึง พฤติกรรมก้าวร้าวที่มุ่งหมายให้เกิดความเจ็บปวดแก่บุคคลอื่น
- พฤติกรรมก้าวร้าวที่เป็นเครื่องมือ (instrumental aggression)
หมายถึง พฤติกรรมก้าวร้าวที่เป็นการใช้กำลังหรือการข่มขู่บุคคลอื่น
เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ เช่น สิ่งของ หรืออาณาเขต
อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญของคำนิยามข้างต้นอยู่ที่เจตนา
ว่าผู้กระทำมีเจตนาหรือจุดมุ่งหมายดังที่กล่าวไว้หรือไม่
ซึ่งทำให้การตัดสินปัญหาพฤติกรรมก้าวร้าวในเด็กเล็กเป็นเรื่องที่ท้าทาย
เพราะการตีความเจตนาของเด็กเล็กทำได้ยาก และพฤติกรรมก้าวร้าวต่างๆ
ที่เด็กแสดงออกมานั้นอาจไม่ได้มีเจตนามุ่งทำร้ายหรือมุ่งให้ได้มาซึ่งสิ่ง
ที่ต้องการ แต่อาจมาจากความบกพร่องทางกายภาพหรือสติปัญญาบางประการของเด็ก
ด้วยเหตุนี้
การสังเกตและตีความพฤติกรรมของเด็กอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญ
เพื่อจะได้เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นและแก้ไขได้อย่างเหมาะสม
พฤติกรรมก้าวร้าวมีลักษณะอย่างไร?
ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
นักวิจัยได้ให้ความสนใจกับพฤติกรรมก้าวร้าวที่เริ่มในเด็กเล็กเพิ่มมากขึ้น
มีการศึกษาตั้งแต่ในเด็กวัยเตาะแตะและวัยก่อนเข้าโรงเรียน
โดยพบข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับพฤติกรรมก้าวร้าวของเด็กเล็ก ดังนี้
- เด็กส่วนใหญ่ยังไม่มีความเข้าใจเรื่องความก้าวร้าวอย่างเต็มที่จน
กระทั่งอายุ 3-4 ขวบ ทว่าเด็กวัยเตาะแตะก็สามารถแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวได้
เช่น การทำร้ายพี่น้อง พ่อแม่ สัตว์เลี้ยง หรือสิ่งของต่างๆ
- เด็กที่แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวก่อนอายุ 3 ขวบนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น
- เด็กที่เริ่มแสดงความก้าวร้าวทางร่างกายหลังจากอายุ 5 ปีไปแล้ว มีจำนวนน้อยมาก
- เด็กอายุ 2 ขวบ ซึ่งเป็นวัย terrible two
จะมีอัตราการแสดงความก้าวร้าวบ่อยที่สุด
แต่พวกเขาจะสามารถหาวิธีการจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่ดีกว่าเมื่ออายุ 4-5 ขวบ
เมื่อเข้าสู่วัยเรียน เด็กที่ก้าวร้าวมักจะทำให้พ่อแม่
ผู้ปกครองและครูเป็นกังวล พวกเขาอาจขัดขวางการเรียนการสอน และทำร้ายร่างกาย
ข่มขู่ หรือทำให้เด็กคนอื่นๆ กลัว
พวกเขายังอาจชอบโต้เถียงและแสดงความก้าวร้าวทางคำพูด
นอกจากนี้ยังมีปัญหาในการควบคุมอารมณ์ตัวเองและอารมณ์เสียได้ง่าย
รวมถึงรู้สึกหงุดหงิดรำคาญผู้อื่นได้ง่าย
พวกเขามักจะดื้อและมีลักษณะขี้โกรธ ขี้โมโห
หากเราไม่ให้การช่วยเหลือเด็กเหล่านี้อย่างเหมาะสม
พวกเขาจะมีความเสี่ยงที่จะมีปัญหาพฤติกรรมต่างๆ เช่น โรคดื้อและต่อต้าน
หรือปัญหาความเรื่องความประพฤติ เมื่อปัญหารุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
พฤติกรรมก้าวร้าวของเด็กจะเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของเด็กคนอื่นๆ
หากปัญหารุนแรงถึงขั้นนี้ เด็กบางคนอาจถูกพักการเรียนหรือไล่ออกได้
อย่างไรก็ตาม
เด็กอีกส่วนหนึ่งจะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวที่ไม่รุนแรงหรือเป็นปัญหามากเท่า
แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่น่ากังวลสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองและครู เช่น
พวกเขาอาจตี หยิก กระทุ้ง กระแทกเพื่อน หรืออาจขว้างปาสิ่งของขนาดเล็ก
ทุบตีสิ่งของ หรือทำให้ข้าวของแตกหักเสียหายเมื่อพวกเขาโมโหหรืออารมณ์ไม่ดี
ขณะที่เด็กบางคนอาจแสดงการอาละวาด เตะขา และกรีดร้อง นอกจากนี้
เด็กบางคนอาจแสดงความก้าวร้าวทางวาจา เช่น เรียกเด็กคนอื่นๆ
ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย พวกเขาอาจข่มขู่หรือล้อเพื่อน
หรือใช้วิธีการทางอารมณ์เพื่อกลั่นแกล้งหรือทำให้เด็กคนอื่นเจ็บปวด
นอกจากนี้ยังอาจใช้การกีดกันออกจากกลุ่มหรือการนินทาว่าร้ายผู้อื่น
พฤติกรรมก้าวร้าวมีสาเหตุมาจากอะไร?
มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดพฤติกรรมก้าวร้าว ดังนี้
- อารมณ์โกรธ เป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลให้เด็กเกิดพฤติกรรมก้าวร้าว
ไม่ใช่เพียงแต่ความโกรธเท่านั้นที่มีผลต่อเด็ก แต่รวมไปถึง ความอิจฉา
ความโลภ ความกลัว และความหมดหวัง
- สัญชาตญาณ เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดพฤติกรรมก้าวร้าว
เวลาที่เด็กรู้สึกไม่ปลอดภัย ระบบฮอร์โมนในร่างกายเด็กจะหลั่งสารอะดรีนาลีน
(adrenaline) เพื่อป้องกันตัวหรือเอาตัวรอด
- พันธุกรรม มีหลักฐานแสดงว่าพื้นฐานอารมณ์ และความผิดปกติต่างๆ
เช่น โรคสมาธิสั้น โรคอยู่ไม่สุข และภาวะบกพร่องทางสติปัญญา
เป็นสิ่งที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้
ซึ่งภาวะเหล่านี้มีความสัมพันธ์กับการแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว
- ปัจจัยทางกายภาพ เช่น การบาดเจ็บที่สมองส่วนหน้า หรือโรคลมชักบางชนิด
- การถูกกระตุ้นจากสิ่งที่ทำให้เกิดความเครียดและวิตกกังวล และขาดทักษะในการแก้ปัญหา
- การมีรูปแบบความผูกพันแบบไม่มั่นคง (insecure attachment) และแบบสับสน (disorganized attachment)
- พ่อแม่มีรูปแบบการเลี้ยงดูที่ไม่มีประสิทธิภาพ เช่น แบบเผด็จการ
ควบคุม เอาใจ ทอดทิ้ง รวมถึงความไม่เข้ากันระหว่างพ่อแม่และลูก
ทำให้มีผลกระทบต่ออารมณ์ของพ่อแม่ และส่งผลต่อการเลี้ยงดูลูกได้
- ปัญหาความขัดแย้งในครอบครัว
- เด็กขาดต้นแบบที่ดี เช่น สมาชิกในครอบครัว หรือเพื่อนฝูง
ที่ให้คุณค่าและเป็นตัวอย่างของพฤติกรรมที่ไม่ก้าวร้าว
ขณะเดียวกันก็ได้รับอิทธิพลทางลบจากสิ่งแวดล้อม เช่น สื่อต่างๆ
ที่สะท้อนถึงความรุนแรง
การแก้ไขพฤติกรรมก้าวร้าวมีความสำคัญอย่างไร?
ข้อมูลจากงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าเด็กที่ไม่แสดงความก้าวร้าวในช่วงวัย
เตาะแตะมักจะไม่มีปัญหาพฤติกรรมก้าวร้าวเมื่อโตขึ้นและเข้าสู่วัยผู้ใหญ่
ในขณะที่เด็กที่แสดงความก้าวร้าวแต่เล็กมักจะแสดงพฤติกรรมต่อต้านสังคมที่
ต่อเนื่องและรุนแรงเมื่อโตขึ้น นอกจากนี้
งานวิจัยล่าสุดยังชี้ให้เห็นว่าประมาณ 67%
ของเด็กที่มีปัญหาพฤติกรรมเมื่ออายุ 2 ขวบ จะยังคงมีปัญหาดังกล่าวเมื่ออายุ
5-6 ขวบ และ 1 ใน 3 ของเด็กอายุ 5
ขวบที่มีปัญหาเรื่องความก้าวร้าวยังคงมีปัญหาเดิมอยู่เมื่ออายุ 14 ปี
และมีงานวิจัยอื่นๆ อีกที่สนับสนุนว่าปัญหาความก้าวร้าวในเด็กเล็กนั้น
ราวครึ่งหนึ่งจะยังคงอยู่ต่อไปจนถึงช่วงวัยรุ่น
ที่น่าสนใจคือปัญหาความก้าวร้าวส่วนใหญ่ที่พบในวัยรุ่นและผู้ใหญ่มักกระทำ
โดยบุคคลที่มีปัญหาพฤติกรรมก้าวร้าวอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่วัยเด็ก
จึงเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่ผู้ปกครองและครูจะต้องใส่ใจแก้ปัญหาหากพบว่าลูก
หรือเด็กนักเรียนมีปัญหาพฤติกรรมก้าวร้าว
หรือมีแนวโน้มหรือความเสี่ยงที่จะมีปัญหาความก้าวร้าว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน ที่ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม เช่น
สื่อโทรทัศน์และอินเตอร์เน็ต มีอิทธิพลอย่างสูงต่อพฤติกรรมของเด็ก
และทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบในทางที่ไม่เหมาะสมได้
ซึ่งส่งผลให้เกิดความรุนแรงและผลเสียหายต่อตัวเด็ก ครอบครัว โรงเรียน
และสังคมได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ไม่ว่ารูปแบบและระดับความก้าวร้าวของเด็กจะเป็นแบบใดก็ตาม
เป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่ผู้ปกครองครูจะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาแต่เนิ่นๆ
เพื่อช่วยเหลือเด็กที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว
เด็กเหล่านี้จะต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมพฤติกรรมของตนเองและจัดการกับความ
โกรธและปัญหาต่างๆ โดยไม่ใช้ความรุนแรง
ซึ่งผู้ใหญ่สามารถช่วยได้โดยการสอนให้รู้จักวิธีการแก้ปัญหาที่หลากหลาย
แทนการใช้ความรุนแรง และคอยเอาใจใส่ดูแลและควบคุมเด็กๆ อย่างเหมาะสม
รวมถึงเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องดังกล่าว
พ่อแม่ ผู้ปกครองจะช่วยเหลือหรือแก้ไขปัญหาลูกก้าวร้าวได้อย่างไร?
การช่วยเหลือเด็กที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว พ่อแม่
ผู้ปกครองควรจะสนใจกับการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ
ซึ่งเป็นขั้นตอนที่จะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี นอกจากนี้ พ่อแม่
ผู้ปกครองควรที่จะสนใจอย่างต่อเนื่องด้วยความอดทน โดยใช้วิธีต่างๆ ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการทำโทษ หากพ่อแม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา ลูกก็จะซึมซับสิ่งเหล่านั้นด้วย
- เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องการควบคุมอารมณ์และการจัดการความโกรธ
- สอนให้ลูกแสดงอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ทั้งที่ดีและไม่ดีอย่างเหมาะสม
- สนับสนุนให้ลูกพูดคุยถึงปัญหาที่มี และสอนทักษะในการแก้ปัญหาต่างๆ
- ให้รางวัลเมื่อลูกแสดงพฤติกรรมที่เหมาะสมและไม่ก้าวร้าว โดยการแสดงความชื่นชมและภาคภูมิใจ
- กำหนดพฤติกรรมเป้าหมายที่ชัดเจนร่วมกัน ว่าพฤติกรรมใดพึงประสงค์
พฤติกรรมใดไม่พึงประสงค์ และติดตามพัฒนาการ
โดยใช้การเสริมแรงทางบวกร่วมด้วย เช่น ให้รางวัลพิเศษ
หรือพาไปทำกิจกรรมที่ชอบ
- เอาใจใส่และให้ความรักความเข้าใจ
เลี้ยงดูลูกแบบให้การสนับสนุนและให้ความอบอุ่น
หลีกเลี่ยงรูปแบบการเลี้ยงดูแบบเผด็จการ ควบคุม เอาใจ หรือทอดทิ้ง
- สอนให้ลูกฝึกมองจากมุมมองของผู้อื่นหรือมุมมองที่ต่างออกไป
เพราะเด็กที่ก้าวร้าวมักตีความเจตนาหรือพฤติกรรมของผู้อื่นผิดไป
และมักตอบสนองอย่างก้าวร้าว
- ลดความตึงเครียดและความวิตกกังวล ที่อาจทำให้เด็กเครียด ซึ่งทำให้ทักษะในการแก้ปัญหาของเด็กด้อยลง
- ใช้วิธีแยกเด็กไปอยู่ที่มุมห้องชั่วคราวหรือ time out
เมื่อเกิดการระเบิดอารมณ์หรือแสดงความรุนแรง
เพื่อให้ทั้งเด็กและพ่อแม่ได้สงบสติก่อนพูดคุยกันด้วยเหตุผล
- บอกเตือนล่วงหน้าก่อนหมดเวลาเล่นของเล่นหรือทำกิจกรรมบางอย่าง เพราะการสั่งให้หยุดในทันทีมักจะทำให้เด็กฉุนเฉียว
- สังเกตว่าสิ่งที่เด็กเล่นหรือทำอยู่ เป็นสิ่งที่เด็กสนใจหรือไม่
ของเล่นหรือกิจกรรมที่น่าเบื่อหรือยุ่งยากเกินไปอาจทำให้เด็กหมดความอดทนและ
อารมณ์เสีย พ่อแม่ควรเปลี่ยนให้ลองสิ่งใหม่ๆ แทน
- ควบคุมการรับชมรายการโทรทัศน์และการเล่นเกมส์ให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงเนื้อหาที่มีความรุนแรง และคอยให้คำแนะนำ
เกร็ดความรู้เพื่อครู
คุณครูสามารถประยุกต์ใช้เทคนิคต่างๆ เช่นเดียวกับพ่อแม่ รวมถึงใช้แนวทางต่อไปนี้ด้วย
- ทำความเข้าใจว่าเด็กอาจไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมและการแสดงออกของตนเองได้ตลอดเวลา
- ระบุและลดสาเหตุของความเครียดที่นำไปสู่การแสดงความก้าวร้าว
- สอนให้เด็กรู้จักและจัดการความรู้สึกและการกระทำที่จะนำไปสู่พฤติกรรมที่ส่งผลร้ายต่อตนเองและผู้อื่น
- วางแผนล่วงหน้าว่าจะป้องกันและรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเด็กแสดงความก้าวร้าวในสถานการณ์ต่างๆ
- ในฐานะผู้ใหญ่ ควรเข้าใจและควบคุมสิ่งที่กระทบกระเทือนอารมณ์ของตัวเองได้อย่างดี
- วางตัวเป็นผู้ใหญ่ที่มีความเป็นผู้นำ น่าเคารพ ที่สามารถจัดการกับเด็กที่มีปัญหาได้
- วางแผนล่วงหน้ากับผู้ปกครอง และ/หรือครูใหญ่ เพื่อกำหนดวิธีการและขอบเขตในการปฏิบัติต่อเด็กที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว